วิธีดู 8 สินค้าแบรนด์เนม ของแท้ VS ของปลอม ใน 1 นาที

 

ปัจจุบันในท้องตลาด และตลาดออนไลน์มีสินค้าลอกเลียนแบบ หรือสินค้าของปลอมมากมาย ซึ่งถ้าไม่ได้สังเกตดีๆ ก็อาจจะเป็นเหยื่อพวกหัวหมอนี้ได้ เพราะตัวสินค้าและแพ็กเกจมันแทบจะเหมือนกับของจริงอย่างแยกไม่ออก จึงได้ไปหาข้อมูลมาวิธีการดู “แบรนด์เนม” ของแท้ ของเทียม มาให้อ่านเป็นความรู้ เป็นวัคซีนป้องกันตัว

 

1.ลิปสติก MAC

 

วิธีแรกว่ากันด้วยเรื่องตัวแพ็กเกจ ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ของ MAC ของแท้ จะสังเกตได้ว่าที่ตัวแท่งลิปสติกจะมีความวาว เหมือนมีกลิตเตอร์เล็กๆ ผสมอยู่ในพื้นผิว ทำให้มีประกายและมีความเงางามที่แตกต่างกันกับของปลอม

ต่อมาที่ อักษรบนแพ็กเกจ ของปลอมฟอนท์จะตัวใหญ่มากอักษรเพี้ยนหมดทุกตัว ซึ่งถ้าเป็นของแท้ โลโก้และตัวอักษรของ MAC จะเป็นแบบอักษรที่ไม่เหมือนใครมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งหากวางตำแหน่งก็จะถูกวางตรงกลางเสมอ ในขณะที่โลโก้บนสินค้าของปลอมจะอยู่ในตำแหน่งบนสุดหรือด้านล่างสุด 


2. กระเป๋า Michael Kors

 

โลโก้โลหะของกระเป๋า Michael Kors ต้องตรงกับสีของชิ้นส่วนโลหะอื่นๆ โลหะมีคุณภาพสูงและมีน้ำหนักค่อนข้างหนัก ตั้งแต่ปี 2015 บริษัท ได้กำหนดแท็ก 10 หลักภายในกระเป๋าและป้ายราคา ที่ระบุหมายเลขรุ่นและหมายเลขจัดส่งได้ คุณสามารถตรวจสอบรหัสนี้ได้จากเว็บไซต์ www.michaelkors.com ว่า รหัสตรงกับกระเป๋าของเราหรือเปล่า เพราะของปลอมมันไม่ตรง ส่วนป้ายราคาของแท้จะพิมพ์ได้เนียนสวยคมชัด ด้านหน้าจะเป็นสีเนื้อ ส่วนด้านหลังจะมีชื่อรุ่น รหัสกระเป๋า รหัสสี และ ราคา


3. เครื่องประดับ PANDORA


ผลิตภัณฑ์ PANDORA จะมีตัวอักษร ALE 3 ตัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Algot Enevoldsen ซึ่งเป็นบิดาแห่งผู้ก่อตั้ง PANDORA และครื่องประดับ PANDORA ทั้งหมด โดยจะมี ALE แกะสลักไว้ในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น (ยกเว้นสินค้าขนาดเล็กที่สุด)

นอกจากนี้ PANDORA ยังสลักตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ เพื่อบ่งบอกเกี่ยวกับคุณภาพของโลหะมีค่าด้วยความบริสุทธิ์ดังต่อไปนี้ : “S” สำหรับเงิน (S925) และ “G” สำหรับทองคำ (ทอง 14 กะรัต – G585, ทอง 18 กะรัต – G750) เป็นข้อบ่งชี้ที่อยู่ในทุกสร้อยข้อมือ แหวน สร้อยคอ และจี้ หากไม่อยู่หรือห่างจากแสตมป์ ALE แสดงว่าคุณซื้อของปลอม


4. รองเท้า Timberland


Timberland แบรนด์ที่มีชื่อเสียงของรองเท้าสำหรับผู้ชายผู้หญิงและเด็ก จุดแรกที่สังเกตได้ชัดเจนเลย คือ ตรา Timberland ที่ประทับตราโลโก้ลงบนหนังรองเท้าและระบุว่ากันน้ำ

Timberland เป็น บริษัท อเมริกัน แต่ทุกโรงงานตั้งอยู่ในประเทศจีนและสาธารณรัฐโดมินิกัน แต่ของปลอมมักจะเขียนว่า “Made in USA” ที่ในผลิตภัณฑ์ เพื่อหลอกเรา!!! ถ้าเห็นแบบนี้ก็สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าเป็นของปลอม


5.หูฟัง Beats


สังเกตได้จากที่ตัวกล่อง ซึ่งของแท้จะมีหมายเลขกำกับอยู่บนสติกเกอร์ ซึ่งอยู่ด้านล่างของทุกกล่อง ส่วนของปลอมจะไม่มีสติกเกอร์และตัวเลขมักจะพิมพ์ลงบนกล่องเท่านั้น

คำอธิบายในกล่องต้นฉบับมี 5 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน และ อิตาลี ถ้ามีมากหรือน้อยกว่านั้นก็แน่นอนว่าปลอม ที่สำคัญชื่อยี่ห้อ: Beats ต้องอยู่บนทั้งหูฟังและสายไฟ ต้องสลักและอ่านได้ง่าย ในขณะที่ของปลอมมักจะไม่มีเลย


6. รองเท้าผ้าใบ Adidas


อย่างแรกที่สังเกตได้ง่ายๆ คือ ตัวกล่อง ซึ่งตัวอักษรหรือข้อความต่างๆ จะสะกดถูกต้อง มีรายละเอียดต่างๆ ของรองเท้าอย่างสี ขนาด ชื่อรุ่น และเลข PO ตรงข้างกล่องและลิ้นรองเท้าที่ตรงกัน

โลโก้บนรองเท้าผ้าใบของแท้จะต้อง มีลายนูน ส่วนของปลอมมีทั้งติดกาวหรือวาดไว้ โดยสามารถตรวจสอบสินค้าในเว็บไซต์ได้ และเครื่องหมายการค้าจะต้องชัดเจน โลโก้เนี้ยบมาก และมีการตัดเย็บอย่างประณีต ต่างจากของปลอมที่ด้านหลังจะมีหนังส่วนเกินยื่นออกมาตรงใต้โลโก้


7. กระเป๋า Louis Vuitton


กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง LV ถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั่วโลก จนกลายเป็นสินค้าที่ถูกก็อปปี้ออกมาให้เลือกสรรหลายเกรด และก็อปได้เหมือนที่สุด สิ่งแรกให้ดูที่ Monogram (ลายที่เป็นสัญลักษณ์ของ LV) จะถูกวางตรงไหน เพราะ LV จะใส่ใจในวิธีการวาง Monogram เหล่านี้อย่างมาก

ต่อมาดูภายในกระเป๋า :  สีภายในกระเป๋าจะเป็นสีน้ำตาล แหวนสำหรับแขวนพวงกุญแจและรายละเอียดอื่นๆ ของการตกแต่งภายในต้องเป็นสีที่เหมาะกับสีของกระเป๋า

กระเป๋า Louis Vuitton ทั้งหมดมี ตราประทับอยู่บนป้ายหนัง มีประเทศผู้ผลิต (มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้น คือ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน สหรัฐอเมริกา และ เยอรมนี) กระเป๋าทุกชิ้นมีรหัสพิเศษ 2 ตัวอักษรและ 4 หมายเลข ตัวอักษรนี้เป็นข้อบ่งชี้อีกประการหนึ่งของประเทศผู้ผลิตซึ่งมักไม่ตรงกับประเทศของก็อป


8. รองเท้าผ้าใบ Nike


รองเท้าผ้าใบ Nike ของแท้ จะไม่มีสีสดใสเท่ารองเท้าของปลอม เพราะผลิตภัณฑ์ของไนกี้ที่ทำด้วยวัสดุของแท้ ดังนั้นถ้าคุณเห็นสีสันที่สดใสมาก ๆ ก็เป็นของปลอม ตรวจสอบรหัสตัวเลขบนรองเท้าผ้าใบเองต้องตรงกับตัวเลขบนกล่อง ซึ่งถ้าเป็นรองเท้าผ้าใบปลอมก็เกือบจะไม่มีหมายเลขที่ตรงกันเลย


ที่มา : brightside.me




Post a Comment

0 Comments