วิธีการดูแว่น RayBan ของแท้ โดยเราจะทำการตรวจสอบด้วยกัน 6 จุด ซึ่ง 6 จุดนี้จะบอกว่าแว่น RayBan ตัวนี้ของท่านเป็นของแท้หรือไม่
จุดที่ 1) บาร์โค้ดบนกล่องแว่น
บาร์โค้ดบนกล่องแว่นบอกอะไรเรา สามารถเช็คได้อย่างไร
โดยจุดที่เราจะเช็คมีอยู่ 4 จุดบนกล่องตามรูป
-ตำแหน่งที่ 1 จะเป็นรายละเอียดของตัวแว่น จะบอกรุ่นของแว่น(ModelNo.) สีของกรอบแว่น สีของเลนส์ ขนาดเลนส์ ความเข้มของเลนส์ ขนาดของขาแว่น ซึ่งหากเราเช็คตรงนี้แล้วไม่ตรงกับคุณสมบัติของแว่นเราให้มั่นใจได้เลยว่าเป็นของปลอม
-ตำแหน่งที่ 2 ที่เราจะทำการเช็คเป็น Matrix code เล็กๆ โดยจุดนี้หากว่าโทรศัพย์ของเรามีโปรแกรมสแกนบาร์โค้ด ให้นำออกมาสแกนที่จุดนี้ ผลลัพธุ์ที่ได้จะเป็นตัวเลขยาวๆ ซึ่งตัวเลขนี้จะต้องเป็นตัวเลขของบาร์โค้ดในจุดที่ 3 และจุดที่ 4 นำมาต่อกันเท่านั้น
-ตำแหน่งที่ 4 ให้เราสแกนบาร์โค้ดแล้วดูผลลัพธุ์เหมือนจุดที่ 3 ผลลัพธุ์ที่ได้ก็จะต้องตรงกับแว่นของเรา
จุดที่ 2) สะพานจมุก
ของแท้ : สลักคำว่า RAY-BAN แล้วตามด้วยขนาดเลนส์ □ ขนาดสะพาน เช่น RAY-BAN 55 □ 14. โดยจะสลักด้านใต้ของสะพานจมูกแว่น ถ้าหากเราคว้ำแว่นให้ปลายขาแว่นชี้ขึ้นและหันออกจากตัว เราจะเห็นตัวหนังสือไม่กลัวหัวสามารถอ่านได้
ของปลอม : จะพิมคำว่า B&L RAY-BAN ITALY โดยจะพิมไว้ด้านบนของสะพานจมุกแว่น หากเรามองใกล้ๆจะเห็นว่าของปลอมจะใช้การพิมแทนการสลักลงบนเนื้อแว่น ดังภาพตัวอย่าง ***แต่มีบางรุ่นที่เป็นปลอมเกรด VIP จะสลักแบบเดียวกับของแท้เลยเรียกได้ว่าแทบจะเป็นฝาแฝดกันเลยก็ว่าได้ แต่ใช่ว่าจะเหมือนทุกอย่าง ของปลอมเกรด VIP บางรุ่นหากเราคว้ำแว่นให้ปลายขาแว่นชี้ขึ้นและหันออกจากตัว เราจะเห็นตัวหนังสือกลับหัว
เปรียบเทียบของแท้ (RAY BAN) และของปลอม (REPLICA) เป็นภาพถ่ายจากทางด้านบนของตัวแว่นจะเห็นว่าของแท้จะไม่สลักอะไรเลยที่ด้านบนจะสลักด้านใต้ของสะพานแว่นแทน
**ความรู้ : B&L เป็นบริษัทแม่ RAY-BAN ก่อนที่จะโดน Loxottica ซื้อไป ตอนที่ B&L ผลิต RAY-BAN นั้นไม่เคยผลิตที่ ITALY แต่จะผิดที่ USA หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะสลักคำว่า B&L RAY-BAN ITALY
**คำแนะนำ : วิธีนี้ใช้ได้กับเรย์แบนของปลอมและของปลอมเกรดพรีเมี่ยมบางรุ่น แนะนำให้ดูหัวข้ออื่นๆถัดไปประกอบ
จุดที่ 3) ขาแว่น
ของแท้ : จะมีข้อมูลตามต่อไปนี้บนขาแว่น
-Model No. เช่น RB3025
-รายละเอียด Model เช่น AVIATOR LARGE METAL
-รายละเอียด รหัสสีกรอบแว่น / รหัสสีเลนส์ เช่น 088/3F หรือจะเป็น Submodel No. เช่น W3234
-รายละเอียดความยาวของเลนส์และสะพานแว่น เช่น 55 □ 14
ตัวอย่าง : RB 3025 AVIATOR LARGE METAL W3234 55□14 3N
RB 3025 AVIATOR LARGE METAL 088/3F 58□14 2N
ตัวอย่างขาแว่น RAY-BAN ของแท้
ของปลอม : แทบจะไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวแว่นเลยมักจะมีแค่ ModelNo. กับขนาดเท่านั้นดังรูป แต่อย่าพึ่งดีใจไปพักหลังมานี้มักมีของปลอมเกรดVIP เกิดขึ้น โดยจะใส่รายละเอียดแว่นเช่นเดียวกับของแท้ลงไปที่ขาแว่นด้วย ทำให้สามารถแยกได้ยากมากระหว่างของแท้กับของปลอม แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถแยกไม่ได้เลย เราสามารถแยกได้จาก รายละเอียดแว่นที่พิมบนขาแว่นนี่แหละ ดูว่าตรงกับแว่นของเราไหม เนื่องจากตัวเลขพวกนี้สามาบอกขนาด สีเลนส์ สีกรอบ ขนาดแว่น ชนิดเลนส์ ขนาดเลนส์ได้ หากใครยังดูคตัวเลขพวกนี้ไม่เป็น สามารถดูวิธีได้ที่
ขาแว่นของ RAY-BAN ปลอม จะมีแค่เลข ModelNo. กับขนาดเลนส์
คำแนะนำ : การดูขาแว่นใช้ไม่ได้กับของปลอมทุกเกรด ควรดูจุดอื่นประกอบ แนะนำให้ดูอุปกรณ์ เพราะดูง่ายและเห็นความต่างชัดเจน
จุดที่ 4) สัญลักษณ์ RB บนเลนส์
*****จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญที่สุดสามารถมองเห็นความแตกต่างและสามารถแยกของปลอมกับของแท้ออกได้อย่างชัดเจน แต่จะต้องสังเกตุ หรือใช้แว่นขยายหน่อยนะครับ****
ของแท้ : อักษร RB จะตระกรุกตระกักไม่เรียบเนียน อาจคล้ายๆไข่ปลาต่อกัน จะสังเกตุเห็นค่อนข้างยาก อาจต้องนำไปส่องกับไฟ เพราะใช้การยิงเลเซอร์ให้เลนส์เป็นรอยบุ๋มลงไปไม่ใช่การพิมพ์ ดูรูปประกอบ
ของปลอม : ตัวอักษรจะสมูธกว่าและตัว R จะไม่เหมือนของแท้ เส้นที่ลากลงจะลากยาวต่อกัน และตัวอีกษรจะสังเกตุเห็นง่ายเพราะใช้การพิมพ์ที่มีลักษณะคล้ายลายน้ำ
คำแนะนำ : จุดนี้เป็นจุดที่ทำให้แยกของปลอมกับของแท้ออกอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะ Ray-Ban ของก๊อป เกรด VIP บางชิ้นก็ทำการยิงเลเซอร์คล้ายของแท้ ถ้าไม่ชำนาญจริงจะดูยาก แนะนำให้ดูว่าตัว R มีลักษณะเหมือนในภาพแรกไหม เส้นที่ลากยาวจะไม่ต่อกัน
ข้อควรระวัง : แว่น Ray-Ban บางช่วงการผลิต คือช่วงที่ Luxottica มา Takeover B&L ช่วงแรกๆ ก็จะมีบางรุ่นที่โลโก้ RB บนเลนส์ ไม่ใช่การยิงเลเซอร์ แต่เป็นการสกีนลงบนเลนส์แทน
จุดที่ 5) สติ๊กเกอร์ติดเลนส์
**จุดนี้เป็นอีกจุดที่แยกไม่ยากและสามารถแยกของแท้กับของปลอมออกจากกันได้**
ของแท้ : ถ้าเป็นสติ๊กเกอร์เลนส์ G-15 พื้นที่สีดำที่เขียนว่า Ray-Ban จะต้องอยู่ตรงกลางเปะและมีความมันเงาดังรูป หากเป็นเลนส์ Polarized จะไม่เขียนคำว่า 100% UV PROTECTION แต่จะเขียนคำว่า POLARIZED แทน ดังเช่นในรูปประกอบ
ของปลอม : สติ๊กเกอร์ของตัวเลนส์ G-15 จะไม่มันเงาเหมือนของแท้ แต่ของปลอมเกรด vip บางรุ่นสติ๊กเกอร์อาจจะมันเงาคล้ายของแท้แต่ก็ยังไม่เหมือนอยู่ดี แต่พื้นที่สีดำที่มีคำว่า Ray-Ban จะไม่อยู่ตรงกลางเปะๆ หากนำมาเปรียบเทียบกับของแท้จะรู้ได้ทันที หากเป็นเลนส์ Polarized จะพิมคำว่า 100% UV PROTECTION แทนที่จะพิมว่า POLARIZED และอาจจะมีป้าย Ray-Ban ติดมาด้วยตามรูป ซึ่งของแท้ไม่มีอย่างแน่นอน
จุดที่ 6) อุปกรณ์
** เป็นอีกจุดที่ดูไม่ยากมองด้วยตาผ่านๆก็รู้แล้วว่ากล่องนี้เป็นของแท้กล่องนี้เป็นของปลอม **
แค่ก๊อปแว่นให้เหมือนก็เหนื่อยลำบากแล้ว เค้าคงไม่ลงทุนมานั่งปลอมคู่มือให้เหมือนเปะๆด้วยหรอก
ผ้าเช็ดแว่น : ของแท้จะมีอัตราส่วนตามภาพด้านล่าง
กล่องแว่น : หากเป็นรุ่นใหม่ๆกล่องจะมีลักษณะแข็งและผลิตจากจีน สังเกตุได้จากด้านในตรงที่บุกำมะหยี่ เขียนว่า CASE MADE IN CHINA จุดนี้ต้องหาดีๆ พิมไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
ถ้าเป็นกล่องรุ่นเก่าจะมีคำว่า MADE IN ITALY อยู่ข้างกล่อง ตัวกล่องจะออกนุ่มๆ
หนังสือ THE ICONS : ขนาดตัวอักษร ตำแหน่ง LAYAR ของแท้กับของปลอมจะต่างกันพอสมควร สามารถแยกออกโดยง่ายดาย
คู่มือ : ขนาดอัตราส่วนจะต่างกันพอสมควรแยกออกได้ง่าย
ด้านซ้ายคือของแท้
ด้านขวาคือของปลอม
สำหรับคู่มือนั้นจะมีอยู่ 3 รุ่น ทางด้านขวาจะมีคำว่า LuXOTTiCA GROUP ถ้าคู่มือเล่มไหนพิมพ์แบบนี้ให้คิดก่อนเลยว่าเป็นของปลอม เพราะคู่มือเล่มนี้เป็นรุ่นแรกเลย ปัจจุบันก็อาจจะมีอยู่แต่น้อยมากๆ
ทั้งหมดนี่ก็เป็นวิธีดูแว่น Ray Ban รุ่น Aviator ของปลอม ของก๊อป ก๊อปเกรดVIP อย่างละเอียดวิธีการที่แม่นยำที่จุดคงต้องดูในจุดที่ 4 กับ จุดที่ 6 เป็นวิธีที่ดีที่สุด ยังไม่มีของปลอมรุ่นไหนทำจุดสองจุดนี้ออกมาได้เหมือนเลย หากเพื่อนๆจะเลือกซื้อแว่น RAY BAN ควรตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อ โดยเฉพาะรุ่น Aviator เนื่องจากปัจจุบันมีของปลอมออกมาเยอะมาก
ข้อมูลและรูปภาพ http://goo.gl/vIHOfU , http://goo.gl/ZQC128 , http://www.toplook.cl
http://www.sunglass365.com
0 Comments